1. ตั้งครรภ์ต่อ : อาการ
ยังมีคงมีอาการของการตั้งครรภ์ มดลูกมีขนาดโตขึ้น ทดสอบตั้งครรภ์
โดยปัสสาวะหรือเลือดให้ผลบวก ตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์ยังพบการตั้งครรภ์อยู่
ภาวะมีเลือดออกน้อย หรือไม่มีเลือดออกเลย 24 – 48 ชั่วโมงติดกัน
ภายหลังจากการใช้ยาไม่ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน แต่เป็นสาเหตุให้กลับมาติดตามผล
เพราะว่า อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์คงดำเนินต่อไป
มีโอกาสเกิดขึ้นได้ประมาณร้อยละ 0.5
แนวทางการดูแลรักษา : ใช้วิธีทางศัลยกรรมเพื่อยุติการตั้งครรภ์
2. การแท้งไม่ครบ : อาการ
มีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้อง หรือมีอาการของการติดเชื้อ เช่นมีไข้
ตรวจพบปากมดลูกเปิด มดลูกมีขนาดโต
ปริมาณชิ้นเนื้อที่ขับออกจากการยุติการตั้งครรภ์ น้อยกว่าที่ควรจะเป็นตามอายุครรภ์
แนวทางการดูแลรักษา :
ใช้วิธีทางศัลยกรรมเพื่อเอาเนื้อเยื่อออกให้หมด หรือใช้ยาไมโซพรอสตอลเพิ่ม
3. การติดเชื้อ : การติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานแทบจะไม่คยปรากฏเลย
หากมีอาการปวดท้องที่อุ้งเชิงกรานรุนแรงติดต่อกัน หรือพบอาการปวดท้องน้อย ปีกมดลูก
และมีไข้สูงที่ 38 องศาเซลเซียส/100.4องศาฟาเรนไต์ หรือสูงกว่า
ติดต่อกันมาเกินกว่า 24 ชั่วโมง ภายหลังการใช้ยาไมโซพรอสตอล และ/หรือ
มีอาการปวดท้องน้อยรุนแรง/ปีกมดลูก มีปวดท้องถ่วงเพิ่มขึ้น ซึ่งยาแก้ปวดไม่ทำให้ทุเลา
มีอาการกดเจ็บที่มดลูก หรือปีกมดลูก
แนวทางการดูแลรักษา :
ถ้าสงสัยว่ามีการติดเชื้อ จะได้รับการตรวจอย่างละเอียด
ถ้าตรวจพบว่าเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ หรือการยุติการตั้งครรภ์ยังไม่สมบูรณ์
จะได้รับการรักษาและกินยาปฏิชีวนะ
กินยาแก้ปวด หากยาแก้ปวดไม่ทำให้ทุเลา ให้พักผ่อน
ใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือผ้าร้อนประคบบริเวณท้องน้อย
4. การตกเลือด : อาการ
มีการเปลี่ยนแปลงของชีพจร เช่น ชีพจรเร็วขึ้นความดันโลหิตต่ำลง
มีเลือดออกมากหรือนานติดต่อกันถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกไม่สบายหรืออ่อนแอ
หากมีเลือดออกมากหรือนานจะเป็นสาเหตุของภาวะโลหิตจาง
หรือพบอาการของภาวะโลหิตจาง เช่น วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม เป็นต้น
แนวทางการดูแลรักษา :
กลับไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเดิม ถ้าใช้ผ้าอนามัย 2 แผ่น หรือมากกว่าเปียกชุ่ม
ด้วยเลือดภายใน 1 ชั่วโมง และกินเวลา 2 ชั่วโมงติดต่อกัน
ความเสี่ยงของเลือดออกที่ต้องให้การรักษา (ให้เลือดและ หรือใช้เครื่องดูด)
พบน้อยมากระหว่างร้อยละ 0.02 – 1.8