เราอาจจะเคยเห็นเพื่อนเราในกลุ่มบางคน ที่มักจะตกเป็นเป้าให้เพื่อนๆแกล้ง รังแก เล่น อยู่เสมอ น้องๆเคยลองถามเพื่อนคนนั้นไหมว่ารู้สึกอย่างไร? เพื่อนของน้องๆอาจจะตอบว่า”ไม่เป็นไร เพราะเราเป็นเพื่อนกัน” แต่ว่า การรังแกกันเกิดขึ้นซ้ำๆเป็นประจำกับนักเรียนบางคนในโรงเรียน นั่นอาจเกิดจากคนที่ไม่สนิท คนที่ไม่รู้จัก คนที่ไม่ชอบหน้า หรือแม้กระทั่งคนที่สนิทรู้จักด้วยเช่นกัน เพราะอะไรนักเรียนเหล่านี้จึงเป็นเป้าหมายของการรังแก และจะทำอย่างไรจึงจะหยุดการรังแกได้ติดตามได้ในบทความ เลิฟแคร์ ไม่รังแกกันได้เลย
ลักษณะของคนที่ถูกรังแกบ่อยๆ
จากรายงานการศึกษาสถานการณ์การรังแกกันในบริบทโรงเรียนไทย ที่เข้าร่วมโครงการป้องกันและลดการใช้ความรุนแรง และการรังแกกันในสถานศึกษา ในพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งจัดทำโดย มูลนิธิแพธทูเฮลท์ (กรกฎาคม,2557) ได้สรุปลักษณะของนักเรียนที่มักถูกรังแกเป็นประจำ ซ้ำทุกวันไว้ว่า มักเป็นคนที่ “อ่อนแอและแตกต่างจากเพื่อน” ซึ่งสรุปลักษณะได้ดังนี้
- นักเรียนพิเศษ เช่น สมาธิสั้น ดาวน์ซินโดรม อัจฉริยะแต่เข้าสังคมไม่ได้
- นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น เกย์ กระเทย ทอม
- นักเรียนที่อยู่โดดเดียว มีเพื่อนน้อย
- นักเรียนที่ไม่สู้คน เป็นได้ทั้งทางด้านร่างกาย เช่น นักเรียนชายตัวเล็กกว่าเพื่อน หรือด้านจิตใจเช่น อดทนอดกลั้น มีเมตตา
- นักเรียนที่มีปัญหาทางบ้าน มีความทุกข์สะสมในใจ เก็บตัว
- นักเรียนที่มีลักษณะภายนอกโดดเด่นหรือต่างจากผู้อื่น เช่น ฟันเหยิน ดำ อ้วน เป็นต้น
ถูกรังแกมีผลกระทบมากกว่าที่คิด
แน่นอนว่าการถูกรังแกบ่อยๆไม่ว่าจะรูปแบบใด สาเหตุอะไรก็ตาม เมื่อโดนไปนานๆก็ส่งผลกระทบที่ไม่ดีให้กับคนที่ถูกรังแก ซึ่งจะขอยกตัวอย่างกรณีของเด็กชายเจมี่ ที่ได้รับผลกระทบจากการรังแก ลองไปดูกันเลย
“…เจมี่ นักเรียนวัย 14 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นจากการถูกโจมตีและถูกล้อเลียนโดยบรรดานักเรียนที่โรงเรียน ซึ่งมักโพสต์ข้อความโจมตีเขาผ่านบล็อคส่วนตัว อีกทั้งยังถูกประณามและป่าวประกาศไปทั่วว่า เขาเป็นเกย์ และมักถูกกลั่นแกล้ง กดดัน หรือถูกกระทำให้เหมือนไร้คุณค่าอยู่ที่โรงเรียน
จากการตรวจสอบข้อความในบล็อคส่วนตัวของเขา พบข้อความเชิงโจมตีเป็นจำนวนมาก เช่น ‘เจมี่ แกมันเป็นเกย์ที่งี่เง่า อ้วน และทุเรศ แกสมควรตาย’ หรือ ‘ถ้าเจมี่ตาย ฉันจะไม่สนใจด้วยซ้ำ และเชื่อว่าคนอื่นก็คงเป็นเหมือนกัน มันคงจะเป็นทางเลือกที่ทำให้คนอื่นๆ มีความสุขขึ้นน่ะ’
ขณะที่ เจมี่ เคยโพสต์ข้อความไว้ว่า ‘ฉันพยายามบอกว่าฉันถูกกระทำรังแกยังไง แต่ไม่มีใครฟังฉันเลย จะมีใครสักใครที่ฟังฉันบ้างมั้ย?’ และก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจฆ่าตัวตายได้โพสต์ข้อความว่า ‘ที่โรงเรียนไม่มีใครสนใจว่าคนอื่นจะเป็นจะตายอย่างไร ทุกคนยังเรียกฉันว่า เกย์ และยังทำให้ฉันร้องไห้’ และโพสต์ข้อความสุดท้ายว่า ‘ได้โปรดจดจำฉันไว้ ตอนที่ฉันร้องไห้เดินไปสู่ประตูสวรรค์’ ซึ่งเป็นท่อนหนึ่งในเนื้อเพลงของ เลดี้ กาก้า
ขณะที่ด้านแม่ของ เจมี่ ได้เปิดเผยว่า ได้รับรู้เรื่องราวที่ลูกชายถูกกระทำและรังแกที่โรงเรียนมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามร้องเรียนเรียกร้องความยุติธรรม และมีแผนให้ลูกชายย้ายโรงเรียน แต่ลูกชายยืนยันว่าไม่เป็นไร จนกระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้นในที่สุด
นอกจากนี้ มีรายงานว่า เลดี้ กาก้า นักร้องสาวที่เป็นไอดอลของ เจมี่ ยังได้ร้องเพลงให้กับเขาในมหกรรมดนตรีที่ลาสเวกัส เมื่อวันที่ 24 ก.ย.54 โดยเธอกล่าวว่า “ฉันแค่อยากจะจดจำช่วงเวลานี้ เพราะเราเพิ่งสูญเสียมอนสเตอร์ตัวน้อยไป เจมี่..ฉันรู้ว่าคุณคงกำลังมองดูอยู่ คุณไม่ใช่เหยื่อ คุณเป็นบทเรียนที่สอนพวกเรา”…”
ขอบคุณข้อมูลจาก snook.com
ข่าวต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ย.54
จากกรณีของเจมี่ คงจะเห็นกันแล้วนะคะ ว่าการรังแกกันส่งผลกระทบร้ายแรงจนทำให้เกิดความสูญเสียที่น่าเศร้า แต่อย่างไรก็ตาม น้องๆสามารถหยุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้นะ ถ้าน้องๆถูกรังแกหรือมีเพื่อนถูกรังแก ควรแนะนำให้ปรึกษาเพื่อนที่ไว้ใจ หรือขอความช่วยเหลือจากครู พ่อแม่หรือ ผู้ปกครอง หากไม่สบายใจ ก็สามารถมาพูดคุยปรึกษากับพี่ๆในแชทรูมของเลิฟแคร์ได้เลยนะคะ
อ้างอิง
รายงานการศึกษาสถานการณ์การรังแกกันบริบทโรงเรียนไทย ที่เข้าร่วมโครงการป้องกันและลดการใช้ความรุนแรงและการรังแกกันในสถานศึกษา พื้นที่กรุงเทพ