ฉีดน้ำหอมยังไง ให้กลิ่นอยู่กับเราทั้งวัน~

หอมกลิ่นเหลือเกิน จะสูดเข้าไป ฉันอยากหายใจ เอาไว้ให้มากพอ~ กลิ่นเป็นเรื่องสำคัญ และอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เรามีกลิ่นที่หอมติดตัวเราไปก็คือ “น้ำหอม” นั่นเอง แต่เอ๊ะ ทำไมเวลาใช้น้ำหอมทำไมกลิ่นมันหายไปไวจัง ต้องมาคอยฉีดใหม่อยู่เรื่อย วันนี้เลิฟแคร์มีเทคนิคทำให้กลิ่นน้ำหอมติดทนนานไปทั้งวันมาฝากกันจ้าาา

1. ดูแลผิวก่อนฉีดน้ำหอม
การทาโลชั่นหลังอาบน้ำ ขัดตัวหรือขัดผิว ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ผิวของสาวๆ มีสุขภาพดี นุ่มนิ่มอยู่แล้ว ยังช่วยให้สาวๆ มีผิวที่ชุ่มชื่น ซึ่งส่งผลต่อการฉีดน้ำหอมอีกด้วย เพราะการมีผิวชุ่มชื่นนั้น จะช่วยให้น้ำหอมติดทนบนผิวได้มากกว่าและช่วยกระจายกลิ่นได้มากกว่าการปล่อยให้ผิวแห้ง นอกจากนี้เคล็ดลับง่ายๆ อีกวิธีที่ช่วยให้สาวๆ มีกลิ่นน้ำหอมติดตัวได้ทนทานตลอดทั้งวัน คือการทาปิโตรเลียมเจลบางๆ ลงบนผิวก่อนฉีดน้ำหอม วิธีการนี้จะช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดตัวตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องฉีดน้ำหอมเพิ่ม

2. กินอาหารที่ไม่ส่งผลกับกลิ่นตัว
อาหารบางชนิดก็มีผลกับกลิ่นตัว เช่น หอม กระเทียม เครื่องเทศต่างๆ ซึ่งหากกินมากๆ หรือกินเป็นประจำก็อาจส่งผลให้มีกลิ่นตัวออกมาผสมกับกลิ่นเหงื่อในระหว่างวันได้ เพราะฉะนั้นการเลือกกินอาหารประเภทเหล่านี้ไม่ให้มากจนเกินไปก็จะทำให้ร่างกายไม่มีกลิ่น เวลาที่เราฉีดน้ำหอมลงบนร่างกาย คนรอบข้างก็จะได้แต่กลิ่นน้ำหอมอย่างเดียวโดยที่ไม่มีกลิ่นตัวมาปะปน

3. ฉีดน้ำหอมลงบนจุดชีพจร
วิธีสุดท้ายที่ช่วยให้มีกลิ่นหอมติดตัวตลอดทั้งวัน แถมกลิ่นฟุ้งกระจายโดยไม่เหม็นฉุนเกินไป นั่นก็คือการเลือก ฉีดน้ำหอม ลงบนจุดชีพจรต่างๆ ค่ะ เพราะความอุ่นจากการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนังจะช่วยดูดซับกลิ่นของน้ำหอมไว้ ทำให้กลิ่นน้ำหอมฟุ้งกระจาายทั้งวันค่ะ อย่างไรก็ตามสาวๆ ไม่จำเป็นจะต้องฉีดทุกจุดชีพจร ฉีดแค่ 2 – 3 จุดก็พอ ขึ้นอยู่กับว่าสาวๆ อยากให้กลิ่นกระจายออกมาในส่วนไหน สาวๆ บางคนอาจเลือกวิธีฉีดแบบแอร์สเปรย์หรือการฉีดขึ้นด้านบนแล้ววิ่งผ่านเพื่อให้ละอองน้ำหอมตกลงบนร่างกายซ้ำอีกรอบเพื่อการกระจายตัวของกลิ่นน้ำหอมก็ได้

สามวิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดตัวทนนาน หอมมมมม กันไปทั้งวันแล้วจ้าา แต่อย่าฉีดเยอะจนเกินไปล่ะ แทนที่จะทำให้มีกลิ่นหอม กลับกลายเป็นว่า ฉุน แสบจมูก จนคนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้เลยเชียวล่ะ ฉีดให้พอมีกลิ่นและให้เรามีความมั่นใจเวลาออกไปข้างนอก ก็นับว่าใช้ได้แล้ว ^^

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://women.trueid.net/detail/j4mEyd0qX0O4