อวยพร เขื่อนแก้ว
ตัวแทนจากศูนย์ผู้หญิงเพื่อสันติภาพและความยุติธรรม
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวาทกรรมการทำแท้งในสังคมพุทธ
โดยเธอลองวิเคราะห์ปัญหานี้ตามหลักอริยสัจสี่ว่า
เหตุที่ผู้หญิงเหล่านี้เลือกที่จะไปทำแท้งไม่ใช่เพราะการทำแท้งเป็นทางเลือกหนึ่งในชีวิต
แต่เขาถูกบังคับให้เลือก ผู้หญิงเหล่านี้รู้โดยปัญญาดีว่าความทุกข์นี้เป็นความทุกข์ที่สาหัส
และเขาไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้
ด้วยค่านิยมที่สังคมไทยไม่ได้สอนให้ผู้ชายคุมกำเนิด เมื่อผู้ชายไม่รับผิดชอบ
ความทุกข์จึงตกอยู่ที่ผู้หญิง ผู้หญิงเหล่านั้นจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาอย่างโดดเดี่ยว
โดยไม่มีระบบใดในสังคมมาช่วยเหลือ เขาต้องถูกสังคมตีตราตั้งแต่ท้องแล้วไม่รับผิดชอบ
ถูกผลักไสให้ออกจากโรงเรียน เมื่อไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็อาจไม่เกื้อกูลเขา
แถมยังตีตราเขามาอีก และอาจถูกผลักไสจากคนในครอบครัวเช่นกัน
พระพุทธเจ้าจะบอกว่าการทำลายชีวิต การเบียดเบียนเป็นบาป
แสดงว่าตั้งแต่ผู้ชายที่ทำเขาท้องไม่รับผิดชอบ ก็เบียดเบียน ผู้ชายคนนี้ก็บาปแล้ว
ระบบโรงเรียนที่ผลักเด็กคนนี้ออก ไม่เกื้อกูลตอนเขาท้อง ระบบโรงเรียนก็บาปแล้ว
ครอบครัวที่ผลักเขาออกไป ครอบครัวก็ทำบาปแล้ว
เพราะฉะนั้นบาปคือการเบียดเบียน การไม่เกื้อกูล
แล้วพวกเราทุกคนที่ตีตราผู้หญิงกลุ่มนี้ก็คือเบียดเบียนทางจิตใจ
ทางจิตวิญญาณ ก็บาปเช่นกัน…
อวยพรมองว่า
การตีตราผู้หญิงเหล่านี้ว่าเป็นแม่ใจยักษ์ แม่ใจบาป เป็นการตีตราที่พฤติกรรม
ซึ่งไม่ได้นำความเข้าใจเชิงปัญญามาทำความเข้าอกเข้าใจความทุกข์ของผู้หญิง
ความเป็นจริงข้อหนึ่งในชีวิตที่เราต้องยอมรับ
คือคนทุกคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน มีทางเลือกมากน้อยต่างกัน
หรือบางคนอาจไม่มีเลยความรู้ทางเพศศึกษาอีกชุดหนึ่งที่ถูกปิดกั้นในสังคมมานาน
คือการคิดหาทางออกเมื่อมีท้องไม่พร้อม
ทุกคนต่างรู้ดีว่าการตั้งครรภ์ที่ไม่อาจรับผิดชอบได้เป็นเรื่องไม่พึงปรารถนา
ตำราไทยแทบทุกเล่มก็สอนว่าอย่าชิงสุกก่อนห่าม
แต่มีหนังสือน้อยเล่มที่บอกว่าเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วเราควรรับมืออย่างไร
จึงจะส่งผลสะเทือนต่อร่างกายและจิตใจให้น้อยที่สุด
เพราะเชื่อมั่นอย่างจริงใจว่าผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์จัดการกับชีวิตตนเอง
และสมควรที่จะดำเนินชีวิตภายใต้ความปลอดภัยเพื่อใช้ชีวิตที่มีอยู่อย่างมีคุณภาพ
การทำแท้งไม่ใช่เรื่องง่าย
และสิ่งที่ผู้หญิงที่ตัดสินใจทำแท้งหลายคนสูญเสียอาจไม่ใช่แค่ในท้อง
แต่พวกเธอสูญเสียกำลังใจในชีวิตและคุณค่าของตัวเองไปด้วย
ดังนั้นสิ่งที่เราควรตระหนักคือความรู้และความเข้าใจ
อีกมุมหนึ่งที่เราอาจไม่เคยได้จากชั่วโมงเพศศึกษาขณะที่เราเป็นนักเรียน
ที่มา : http://waymagazine.org/safe-medical-abortion/
อ้างอิงจาก ข้อมูลจาก
Pro-Voice 3:
งานรณรงค์เพื่อสิทธิการเข้าถึงการทำแท้งที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย
วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น.-19.30 น.
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร