ทำไงดี ให้พ่อแม่ ฟังเสียงวัยรุ่นอย่างเราบ้าง

เราอยากเปิดใจคุยกับพ่อแม่ เราอยากขอคำปรึกษา เราอยากระบาย เราอยากขอไอแพด เราอยากไปเที่ยวกับเพื่อนตอนกลางคืนบ้าง เราอยากบอกว่าเกรดเทอมนี้ไม่ดี อีกหลายอยากแต่ไม่รู้จะพูดยังไง
พ่อแม่ไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวที่อยากคุยกับลูกแต่ลูกก็อยากคุยกับพ่อแม่เหมือนกันแต่บางครั้งด้วยช่องว่างระหว่างวัยคุยกันไม่รู้เรื่องทุกทีคุยกันทีไรทะเลาะกันตลอดจนเราต้องหนีไปคุยกับเพื่อนแทนแต่เพื่อนก็ซื้อไอแพดให้เราไม่ได้ไง
มาลองอ่านแล้วนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อพูดคุยกับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆเพื่อให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นด้วย

ชวนพ่อแม่คุยเรื่องทั่วไปๆ ในแต่ละวัน และทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ
เพราะเจนเนอเรชันที่พ่อแม่เราเติบโตมาถูกเลี้ยงมาโดยที่ไม่สนิทกับครอบครัวเค้าเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับลูกยังไงถ้าเราอยากคุยกับเค้าเราเริ่มทำลายกำแพงนั้นเลยเช่นคุยเรื่องทั่วไปที่เจอในแต่ละวันวันนี้หนูไปกินขนมร้านนี้มาอร่อยมากเลยแม่อาทิตย์นี้พาหนูไปหน่อยได้มั้ยคะ

ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มต้นคุย
แม้ว่าคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้จะอายุ13-20 ปี แม้ว่าพ่อแม้เราจะอายุ 70-80 ปี แล้วก็ตาม เพราะทุกคนต้องการมี ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเสมอ

ส่วนเวลาที่เราจะคุยเรื่องยากๆเช่นเราสอบตกเทอมนี้เกรดไม่ดีเรามีแฟนจะทำไงดีก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการพูดคุยคือการสื่อสารสองทางวิธีการพูดการแสดงออกของเรามีผลต่อการฟังและเข้าใจของพ่อแม่เหมือนกันดังนั้นก่อนคุยเราต้องวางแผนก่อนเช่น

1. ต้องรู้ก่อนว่าเราอยากได้อะไรจากการพูดคุยครั้งนี้ เช่น เราต้องการบอกแม่ว่า เทอมนี้สอบได้เกรดไม่ดี เราเริ่มคุยกับรุ่นพี่คนนึงอยู่นะแม่ หรือหนูอยากได้  iPad ค่ะ

2. อธิบายความรู้สึกของเราเองด้วยความซื่อสัตย์จริงจังและจริงใจอธิบายว่าหนูพยายามตั้งเรียนวิชานี้แล้วค่ะแม่แต่หนูไม่เข้าใจจริงๆหรือหนูไม่ถนัดวิชานี้เลยหนูไม่ชอบครูที่สอนวิชานี้เค้าสอนไม่รู้เรื่องซึ่งการอธิบายความรู้สึกกับผู้ใหญ่ออกไปเค้าอาจจะหาวิธีช่วยแก้ปัญหาเราได้เช่นพาเราไปเรียนพิเศษเพิ่มหรือช่วยเลือกคณะเรียนที่เหมาะกับความถนัดของเราเพราะเราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่างทุกคนมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป

หรือถ้าเราอยากได้ไอแพด เราต้องอธิบายกับพ่อแม่ให้ได้ว่า เราจะเอามาทำอะไร ถ้าได้มาแล้ว จะเอามาใช้เรียนได้นะ เอามาทำรายงานได้ เอามาหัดวาดรูป  อาจเสนอว่า จะเก็บเงินเองครึ่งนึง ขอให้แม่ช่วยออกให้หนูครึ่งนึงได้มั้ยคะ หรือถ้าเทอมนี้หนูเรียนได้เกรดเพิ่มขึ้น แม่ซื้อให้หนูหน่อยนะ ถ้าหนูเกรดตก หนูจะคืนให้แม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้พ่อแม่ ว่าเรามีความพยายามที่จะได้ของชิ้นนั้นๆ จริง และของชิ้นนั้นมีประโยชน์กับเราจริงๆ

3. รับฟังและพยายามเข้าใจมุมมองของพ่อแม่แม้ว่าพ่อแม่จะไม่เห็นด้วยกับเราอย่าเถียงก่อนเพราะถ้าเราฟังพ่อแม่จนจบเราอาจจะนำวิธีการแก้ปัญหาของพ่อแม่มารวมกับวิธีของเราจนได้วิธีที่เราคิดว่าดีก็ได้หรือถ้าเราไม่เห็นด้วยกับวิธีนั้นๆเลยขอให้เราลองเปิดใจฟังจนจบก่อนเพราะสุดท้ายแล้วพ่อแม่ทุกคนต่างหวังดีกับลูกเสมอ

4. เลือกเวลาที่จะคุยให้เหมาะสมเช่นหลังจากที่พ่อแม่กลับมาจากทำงานนั่งพักผ่อนเพิ่งอาบน้ำเสร็จทานข้าวอิ่มแล้วหรือเวลาที่เกรดเราออกมาดีๆเพราะคงไม่เหมาะที่จะคุยในเรื่องยากๆในช่วงเวลาที่รถติดกำลังหิวค่ะหรือพ่อแม่กำลังเครียดเรื่องอื่นๆอยู่ค่ะ

สุดท้ายแล้วเราคิดว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากจะบอกลูกๆว่าตัวพ่อแม่เองก็เพิ่งเคยเป็นพ่อแม่ครั้งแรกครูที่สอนให้เป็นพ่อแม่คือตัวลูกเราไม่เคยเป็นพ่อแม่แต่เราเคยเป็นลูกพ่อแม่ก็เคยทำเรื่องผิดพลาดเหมือนกันถ้าลูกทำอะไรผิดพลาดมาขอให้มาบอกมาปรึกษาช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไปด้วยกัน

ทางออกมีเสมอและพ่อแม่พร้อมจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอและตลอดไป