รัฐบาลพร้อมเปิดสายด่วนปรึกษาท้องไม่พร้อม โทร 1663

พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

การประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครั้งที่ 1/2560

วันนี้ (3 เมษายน 2560) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม)
อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครั้งที่ 1/2560
ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติเห็นชอบ
กระบวนการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในประเทศไทยซึ่ง
กรมอนามัยร่วมกับ Concept Foundation ได้ทำการศึกษา
เรื่อง ระบบการให้บริการยุติการตั้งครรภ์ด้วยยาเพื่อประเมินถึงรูปแบบที่ดีที่สุด
ในการให้บริการในบริบทสำหรับสังคมไทย ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2548
มาตรา 305 และข้อบังคับของแพทยสภา พบว่าประสิทธิภาพของยายุติการตั้งครรภ์
ซึ่งมีอันตรายน้อยกว่า เพราะปลอดจากภาวะแทรกซ้อนจากมดลูกทะลุ
โดยการใช้ยาน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดอันตรายจากการทำแท้งเถื่อน
ลดค่าใช้จ่ายของผู้บริการ และค่าใช้จ่ายในภาครัฐที่จะต้องใช้ในการรักษา
ภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้ง และกรมอนามัยยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย
ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่าย แพทย์ – พยาบาลอาสาส่งต่อยุติ
การตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย (R-SA) เพื่อจัดระบบส่งต่อและรับส่งต่อ
กรณีบริการยุติการตั้งครรภ์และการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ
เพื่อให้วัยรุ่นและสตรีที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่ส่งต่อจากพื้นที่ใกล้เคียง
และโทรสายด่วนปรึกษาท้องไม่พร้อม 1663

พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติเห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นระดับชาติพ.ศ. 2560-2569
ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาตร์ ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเพศวิถีศึกษา
และทักษะชีวิตที่มีคุณภาพและมีระบบการดูแลช่วยเหลือที่เหมาะสม

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมบทบาทครอบครัว ชุมชน และสถานประกอบกิจการในการเลี้ยงดู
สร้างสัมพันธภาพและการสื่อสารด้านสุขภาวะทางเพศของวัยรุ่น

ยุทธศาตร์ที่ 3 พัฒนาระบบบริการสุขภาพทางเพศ
และอนามัยการเจริญพันธุ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตร

ยุทธศาตร์ที่ 4 พัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ การคุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์
และการจัดสวัสดิการสังคมในกลุ่มวัยรุ่น

และยุทธศาตร์ที่ 5 ส่งเสริมการบูรณาการการจัดการฐานข้อมูล งานวิจัย
และการจัดการความรู้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้มีการปรับปรุง
แก้ไขยุทธศาสตร์ดังกล่าว ตามที่คณะกรรมการฯ แนะนำ
และมอบให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

…………………………………………………………
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐบาลไทย
http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/2864