ว่าด้วยเรื่อง อัณฑะและกางเกงใน

จะว่าไป ผมไม่ได้ใส่กางเกงในแบบรัดตุ้มมานานกว่า ๒๐ ปีเห็นจะได้

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเป็นเด็ก ผมมารู้จักการใส่กางเกงในก็เมื่อล่วงเข้ามาจนชั้น ป.๖ ก็ไม่รู้ว่าจะใส่ไปเพื่ออะไร ในเมื่อเราก็ใส่กางเกงอยู่ตามปกติมันก็ปิดไข่เราได้ไม่อายใคร จะมีปัญหาบ้างก็เมื่อเวลารูดซิบเร็วๆแล้วดันไปติดเอาหนังหุ้มปลายกระเจี๊ยวเข้าไปด้วย เล่นเอาน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง กว่าจะตัดใจรูดกลับปล่อยให้มันหลุดได้ ก็ใช้เวลาราวอึดใจหนึ่ง แต่กระนั้นก็ไม่เคยเข้าใจว่า ผู้ชายอย่างเราๆจะต้องใส่กางเกงในทำไม จนกระทั่งเมื่อตอนเรียนอยู่ชั้น ป.๖ขณะที่กำลังเล่นกระโดดถีบกับเพื่อนผู้หญิงอยู่นั้น(แมนมากนะครับ เล่นกระโดดถีบกับผู้หญิงได้เนี่ย) กำลังเล่นกันอยู่ดีๆทันใดนั้นเธอหยุดนิ่งทำตาโตแล้วตะโกนลั่นห้องว่า “ไอ้แป๊ะไม่ใส่กางเกงใน” ท่ามกลางการรายล้อมจากบรรดาเด็กผู้หญิงวัยกระเตาะ นมขึ้นแล้วบ้าง ยังไม่ขึ้นบ้างจำได้ว่าอายมาก ไม่รู้ว่าอายทำไม แต่อาย อายประหนึ่งเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว

ครั้งนั้นเองที่รู้ว่า กางเกงในนั้นก็มีความจำเป็นสำหรับผู้ชายเช่นเดียวกัน เย็นวันนั้นแม่ก็พาไปซื้อกางเกงในสิครับ

ในสมัยนั้น กางเกงในเด็กผู้ชายไม่มีใครดังไปกว่ากางเกงในยี่ห้อ “แอปเปิล” กางเกงในยางยืดลายแถบสีตามขวาง มันเป็นผ้ายางยืดทั้งตัว ลองนึกสภาพผ้ายืดรัดขาของคนแก่สมัยนี้ดูสิครับ มันเป็นแบบนั้นเลย ดีไซน์การตัดก็ไม่มีอะไรมาก หากเราแผ่กางเกงในออกมันก็เป็นผ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา ที่เปิดบนเปิดล่าง สามารถอ้าออกให้เราสวมใส่ได้เท่านั้นเองไม่มีหรอก ไอ้ที่จะทำกระเปาะตรงกระเจี๊ยวให้พอไม่อึดอัด ไม่รู้ยัดไข่ใส่เข้าไปได้อย่างไร แต่ผมก็ใส่ได้ เพื่อนๆผมก็ใส่ได้ ผู้ใหญ่บางคนก็ใส่ได้ มันฮิตจริงๆนะ แต่อันที่จริง หากของมันดีจริงมันก็คงไม่สาบสูญหายไป ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว “กางเกงในแอปเปิ้ล”

มนุษย์เพศชายอย่างเราๆนั้น ธรรมชาติสร้างกระเจี๊ยวให้ห้อยยาวลงมา และยังดึงให้ลูกอัณฑะอีก ๒ ลูกห้อยย้อยลง     มาอยู่ในถุงอัณฑะอีกด้วย และหากสังเกตให้ละเอียดอีกสักนิดก็จะพบว่า ลูกอัณฑะด้านซ้ายมักจะห้อยลงมาต่ำกว่าด้านขวาเสียด้วย

ธรรมชาติมีเหตุผลเสมอครับ มันให้กระเจี๊ยวยาวออกมา เพราะจะได้ใส่ลงไปในช่องคลอดได้เวลาจะมีเพศสัมพันธ์(ลองนึกดูสิ หากชายและหญิงมีอวัยวะเพศเป็นรูแบบเดียวกัน แล้วเราจะผสมพันธ์กันอย่างไรคนนะไม่ใช่ไส้เดือน)มันให้อัณฑะห้อยลงมาด้วยเพราะว่าอุณหภูมิในถุงอัณฑะนั้นต่ำกว่าในช่องท้องเล็กน้อย และเป็นช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการสร้างอสุจิ เคยสังเกตไหมครับ ว่าไอ้ถุงอสุจิของพวกเรานั้นมันเคลื่อนไหวได้โดยปราศจากการควบคุมของเจ้าของ บางทีมันหดรัด บางทีมันห้อยต่องแต่ง นั่นเพราะมันกำลังช่วยปรับอุณหภูมิอยู่ด้วยครับ เดาได้เลย เมื่อไหร่หนาวมากๆ มันก็จะหด ทำให้อัณฑะเราได้รับความอบอุ่นจากอุณหภูมิในช่องท้องแต่หากหน้าร้อนมากๆมันก็ห้อยต่องแต่งโทงเทงๆเพื่อใหัอัณฑะเราห่างจากช่องท้อง
แล้วยังไงล่ะ หากเราใส่กางเกงในฟิตๆรัดๆ จะเกิดผลอย่างไรกับร่างกายของเรา โดยเฉพาะลูกอัณฑะ เอาเป็นว่า ผมเลิกใส่กางเกงในชนิดรัดตุ้มมาตั้งแต่ ๒๐ ปีที่แล้ว คาดว่าคงกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดกับอวัยวะสุดหวงสุดห่วงคู่นั้น และอยากคงไว้ซึ่งอสุจิที่มีคุณภาพคับแก้วอย่างไรเล่า
ในขณะที่กำลังนั่งคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เรื่องการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลในบ่ายแก่ๆวันหนึ่ง ท้องฟ้ามืดครึ้มส่งเสียงโครมครามอยู่ด้านนอก และเพียงไม่นานก็ส่งฝนลงมาทักทายพวกเราตูมเบ้อเริ่ม เราคุยกันถึงเรื่องการปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมันหมดความสามารถในหน้าที่ของมันมานานแล้ว และส่งผลให้โรงพยาบาลตั้งอยู่ในความเสี่ยงที่จะปล่อยเชื้อโรคออกสู่ชุมชนได้ ทีมของเราได้พูดกันถึงแผนและวิธีการต่างๆ ในการแก้ไขปรับปรุงหรือกระทั่งการสร้างระบบใหม่ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาและฉับพลันทันใดนั้นก็เกิดภาวะบางอย่างขึ้นกับผม…
“ชิ๊บหาย มดกัดไข่”

เสียงสบถที่เกิดขึ้นในใจผมนั้น มันมาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบที่บริเวณถุงอัณฑะอย่างทันทีทันใด ผมเข้าใจว่ามันน่า
จะถูกมดกัดจึงพยายามบิดตัวและแอบเอามือมาบีบกดเอาไว้ มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนคนอื่นอาจจะไม่ทันสังเกตเห็น มันน่าแปลกที่เมื่อไม่ขยับตัวจะไม่รู้สึกแปล๊บๆ แต่เมื่อขยับตัวเท่านั้นมันก็จะเจ็บแสบขึ้นมาในทันทีสงสัยไอ้มดบ้านั่นมันคงกัดๆปล่อยๆ

บังเอิญกับคงเป็นโชคของผมที่ในการสนทนานั้น เรามีความจำเป็นต้องออกไปดูพื้นที่ระบายน้ำของโรงพยาบาลที่อยู่ภายในตัวอาคาร ผมจึงรู้สึกดีใจลุกขึ้นอย่างช้าๆและค่อยๆเดินไปห้องน้ำ ระหว่างที่เดินนั้น ไอ้มดบ้านั่นคงเกิดอาการสะใจและจงใจจะแกล้งผมเล่น ด้วยการกัดปล่อยกัดปล่อยเป็นช่วงๆตลอดเวลา และผมเอง หากเมื่อมันกัดเน้นๆก็จะเอามีมือไปบี้ที่ใต้โคนอัณฑะเสียทีหนึ่ง คนที่สังเกตเห็นอาจจะคิดไปว่า “อาจารย์ธนพันธ์แกคงคันไข่นะ เห็นเดินไปเกาไป” แต่ผมไม่ได้คัน ผมเจ็บไข่ตรงใต้ถุงอัณฑะ ถึงตรงนี้ก็เริ่มเหงื่อออกเพราะมันเจ็บ “หรือว่ามันเป็นตะขาบวะ” ผมคิดในใจ

และเมื่อได้โอกาสก็เลยเข้าห้องน้ำ เอามือเข้าไปควาญหาลูบๆคลำๆ ใจหนึ่งรู้สึกโล่งเพราะไม่มีตะขาบ ไม่มีแมลงตัวใหญ่ไม่มีแมงมุมแม่หม้ายดำในกางเกง กระโดดเหยงๆไปด้วยเผื่อว่ามันอาจจะหลุดร่วงลงไปเมื่อไม่พบตัวอะไรในกอหญ้า จึงเดินออกไปสมทบกับทีม

“เชี่ยเอ๊ย มันยังอยู่” ผมสบถในใจอีกรอบ

เมื่อพบว่ามันยังเจ็บแปล๊บๆเมื่อขยับตัว ดังนั้นคงจะเป็นการดีที่ผมจะนั่งเฉยๆ พยายามขยับเขยื้อนให้น้อยที่สุด ผมนั่งทนอยู่อย่างนั้นอยู่อีกเกือบชั่วโมง ก็ได้เวลากลับโรงพยาบาลของตัวเองและพยายามเดินให้ช้าที่สุด มีการขยับตัวของถุงอัณฑะให้น้อยที่สุด และตรงเข้าห้องน้ำอีกรอบ คราวนี้ก็แก้ผ้าเลย และผมก็พบว่า ขนเส้นน้อยๆเส้นหนึ่งนั้น มันไปสอดติดอยู่ในตะเข็บของกางเกงในบ๊อกเซ่อร์ กางเกงในมันทิ้งตัวเมื่อห้อยลงไอ้ขนเส้นนั้นจึงถูกดึงลงไปด้วย ดังนั้น เมื่อรูดมันออกจึงหายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง เฮ้อ…….. มดไม่ได้กัดไข่ 🙂