เขียนค้างมาจากเรื่องถุง ก็นึกมาถึงถุงยาง ถุงยางอนามัย ถุงครอบเจี๊ยว นึกไปตามประสาหมอรักษาจิ๋ม
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่รู้เป็นบ้าอะไร “หนองในระบาด”
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน นั่งนึกเล่นๆไปว่า ไม่ได้ฉีดยารักษาหนองในมาพักหนึ่ง เดินไปหยิบยาฉีดกล่องนั้นมาดูวันหมดอายุก็พบว่าน่าจะเก็บไว้ได้อีกราว ๒ ปี เดินเอาไปเก็บไว้ที่เดิม
นึกไปนึกมาได้ไม่ถึงวัน ก็ต้องเดินไปหยิบยากล่องนั้นมาใหม่
กล่องที่ ๑
“เจอกันอีกแล้วนะเฮีย” ผมทักทายแกตามประสาคนคุ้นเคย
“หมอครับ ผมแสบลำกล้องอีกแล้ว” เฮียแกหลบตามองต่ำลงเมื่อเห็นว่าผมขมวดคิ้ว
“คราวนี้ไปเสร็จใครมาอีกล่ะ ผมนี่ล่ะกลัวจริงๆ ว่าเฮียจะติดเอดส์เข้าสักวัน” ผมพูดออกไปอย่างนี้ก็เพราะว่าต้องมาฉีดยารักษาโรคหนองในให้แก ๒ ครั้งแล้วในรอบ ๒ ปีที่ผ่านมา
ครั้งแรกแกไปเสร็จนักศึกษาที่ไหนเข้าสักที่
“ผมก็นึกว่าเป็นนักศึกษา คงสะอาด เลยไม่ได้ใช้ถุงยาง” นั่น ฟังแกเข้า
ครั้งที่ ๒ แกไปเสร็จเด็กเสิร์ฟตอนไปประชุมต่างจังหวัด คราวนั้นถุงยางแตก
และคราวนี้ผมขี้เกียจถามว่าแกไปเสร็จใครที่ไหนอีก
“เด็กมันใส่ถุงยางผิดด้าน มันรูดให้ผมแบบแปลกๆ แล้วมันก็เลยหลุด หลุดไปตอนไหนก็ไม่รู้ครับหมอ” แกสารภาพออกมาเหมือนคนจำนนต่อหลักฐานในขณะที่ผมกำลังรูดปลายจู๋ดูและพบว่ามีหนองไหลออกมาทางท่อเยี่ยว
“แล้วเมียว่าไง” ผมคิดถึงและรู้สึกเห็นใจจิ๋มที่บ้านของเฮียแปลบ
“เค้าโกรธผมใหญ่เลยครับหมอ เพราะพอเค้าเริ่มมีอาการฉี่ขัดด้วย จึงเรียกผมมาสอบสวน” แกหน้าแดง
“ผมหลาบแล้วครับหมอ” แกพูดเสียงเบาๆ
“โถเฮีย ผมยังจำได้ว่าเมื่อ ๒ ครั้งก่อน เฮียก็พูดกับผมแบบนี้แหละ ผมตั้งชื่อใหม่ให้เฮียแล้วนะ”
“ชื่ออะไรเหรอหมอ” แกคงงง
“อาเฮีย ๓ เข็ม ถือซะว่าเป็นเคล็ด จะได้ไม่ต้องมีเข็มที่ ๔” ผมพูดประชดไป และรู้ว่า แกคงต้องเปลี่ยนชื่ออีกหลายรอบ
กล่องที่ ๒
เธอเป็นผู้หญิงสาวท่าทางน่าทะนุถนอม เอ..หรือควรจะเรียกว่า น่าทะนุบำรุง ดีนะ
“นี่เธอ แฟนเธอฉี่แสบมั้ย” ผมถามเธอออกไปหลังจากที่ตรวจภายในแล้วใช้นิ้วรีดใต้ท่อปัสสาวะแล้วพบว่ามีหนองไหลออกมาทั้งจากท่อฉี่ และท่อจากต่อมสคีน (skene) ข้างๆท่อปัสสาวะ นอกจากนั้นยังมีหนองที่ต่อมบาร์โธลินที่แคมด้วย
“ไม่ค่ะหมอ ไม่เห็นเค้าบ่นนะคะ แต่หมอคะ หนูสงสัยนิดนึง เป็นแบบนี้มันน่าจะติดมากี่วันแล้ว” นั่นแน่ ผมชักชอบคนแบบนี้ แสดงว่าเธอน่าจะเป็นคนที่หาข้อมูลก่อนมาเจอผม
“น่าจะ ๕-๗ วัน หรืออาจจะยาวได้ถึง ๒ อาทิตย์” ผมตอบ แล้วเธอก็เงียบไป
“ถามจริงๆเถอะ เธอมีแฟนกี่คน” บ้า บ้าไปแล้ว ทำไมผมถามคำถามเลวๆนี้ออกไปวะ เอาเหอะ แก่ปูนนี้แล้ว มันต้องมีอะไรบางอย่างบ้างสิน่า
“แฟนน่ะมีคนเดียว แต่กิ๊กนี่เพิ่งมีค่ะ” บ้า บ้าไปแล้วเหมือนกัน แต่ผมก็เชื่อว่าเรื่องบ้าๆนี้มีอยู่จริง
“แล้วเธอคิดว่า หนองในนี้ติดได้แต่ใดมา” ผมนึกไปถึงโคลงสี่สุภาพของศรีปราชญ์
“เจ้าโลกโลกา กิ๊กให้” เธอคงตอบมาอีกแบบแต่ผมปล่อยให้ไหลไปตามศรีปราชญ์วิถี
เฮ้อ..
กล่องที่ ๓
“หมอ นี่ฉันไปตรวจภายใน เค้าให้นักศึกษาแพทย์ตรวจ นี่ดูซิ ฉี่แสบไปหมดแล้ว” รายนี้เธอมาแบบคุกคามนิดๆ
“ใจเย็นๆ เล่าให้ฟังหน่อย ว่าทำไมจึงไปตรวจภายใน” ผมใช้วิธีฟังเรื่องเล่า
“ก็ไปตรวจเพราะมันแสบๆ กลับมาบ้านเลยยิ่งแสบ ฉี่ก็แสบ จึงไปหาหมออีกที่ เค้าบอกว่าเป็นเชื้อรา ให้ยามาสอด มันก็ยังไม่หาย ตอนนี้จะฉี่ทีนึง แสบแทบตาย” เธอยังไม่หยุดโทษนักศึกษาแพทย์ตามที่เธอคิด
“แฟนเธอทำงานอะไรจ๊ะ” ผมถามออกไปเหมือนนอกเรื่อง แต่ผมต้องการจะรู้จริงๆ หลังจากที่ได้รูดท่อปัสสาวะแล้วพบว่ามีหนองไหลออกมา (อีกแล้ว รายที่ ๓ แล้วนะเฟ้ย)
“ถามจริงๆ ไปเที่ยวผู้หญิงมารึเปล่า” ผมถามชายตรงหน้า หลังจากฉีดยาให้เมียเขาเสร็จเรียบร้อยและขอให้ออกไปพักรอด้านนอก
“ไม่นะครับหมอ ไม่ได้ไปเที่ยวแบบนั้นหรอก” เขาตอบมา
“ฟังให้ดีๆ เมียติดหนองใน เขาไม่มีอะไรกับคนอื่น ถ้ามันจะติด ก็ติดมาจากจู๋ของนายอันเดียวนั่นแหละ” ผมเล่นแรง อันที่จริงที่สามารถพูดแบบนี้ได้ก็เพราะเธอบอกว่าสามีก็มีอาการแสบท่อฉี่ และไปหาซื้อยามากินล้างลำกล้องอยู่
“ผมก็แค่มีกับแฟน” มาแล้ว คำตอบที่น่าสนใจเริ่มถูกปล่อยออกมา
“แล้วแฟนน่ะ มีกี่คน” ผมยังไม่เลิก
“ก็ซักสองสามคนครับหมอ แต่มันคือแฟนนะหมอ ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนที” ยัง ยังไม่รู้ตัว เลยตีเข่าไปให้หนึ่งยก
ผมยังคุยกับเขาอีกนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเรียกเธอเข้ามาคุยสรุปอีกรอบ
“มันเจ้าชู้หนักเลยหมอ ซนไปเรื่อย” เธอเริ่มต้นการสนทนาเองโดยที่ผมยังไม่ได้เริ่ม
“เธอก็รู้ แต่คราวนี้รู้แล้วก็ใช้ถุงยางเถอะ อย่าเอาจิ๋มไปแลกกับโรคแบบนี้ เก็บตัวเองไว้เลี้ยงลูกดีกว่า” ผมสะเทือนใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอมีลูกกับเขาอยู่ ๒ คน
“ค่ะหมอ”
เวลาฟังผู้หญิงตอบมาว่า “ค่ะหมอ” แบบคนยอมจำนนอย่างนี้ทีไร ผมรู้สึกอ่อนไหวทุกที
ธนพันธ์ ชูบุญผู้มีความอ่อนไหวต่อสตรีเพศ
๓๐ สค ๖๑