เป็น “แม่” หรือไม่? ขอสิทธิตัดสินใจเอง!

ชีวิตและสุขภาพของผู้หญิงแต่ละคนมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยง แต่เธอจะรู้เท่าทันและแก้ไขป้องกันได้ถูกต้องทันเวลาไหมนะ?

ลุงหมอมีคนไข้ชายที่ไปเที่ยวสถานบริการอาบอบนวด หลังมีเพศสัมพันธ์พบว่าถุงยางหลุดอยู่ในช่องคลอดผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นก็จะเสี่ยงท้องโดยที่ไม่ตั้งใจ ต่อมาหนุ่มคนนี้ก็ไปดื่มต่อที่ผับจนมึนเมา และได้พบกับกลุ่มหญิงสาวที่มาเที่ยวและพูดคุยกัน จากนั้นได้ชวนหญิงสาวคนหนึ่งไปที่โรงแรม แต่แวะซื้อถุงยางอนามัยก่อน ขณะกำลังจะมีเพศสัมพันธ์กันก็มีปัญหาใส่ถุงยางไม่ได้ เพราะถุงยางที่ซื้อเป็นขนาด 49 ซึ่งปกติจะใช้เบอร์ 52 เลยมีอะไรกันโดยไม่ได้ป้องกัน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็เสี่ยงที่จะท้องโดยไม่ตั้งใจอีก

สาวๆ คงตอบได้นะครับว่าจะป้องกันท้องยังไง?

นั่นก็คือควรกินยาคุมฉุกเฉิน แต่ก็ต้องตามดูประจำเดือนว่าจะมาไหม ถ้าไม่มาต้องรีบตรวจการตั้งครรภ์นะครับ

หนุ่มอีกคนมีเพศสัมพันธ์กับสาวที่เพิ่งรู้จักกัน 2 เดือนทาง We chat นัดพบกันและไปหอพักของผู้ชาย ดื่มเบียร์ มีเพศสัมพันธ์ และใส่ถุงยางเบอร์ 52 เจ้ากรรม! เขาลืมบีบกระเปาะไล่ลมที่ปลายถุง ถุงยางแตก! เขาทิ้งถุงยางไปและร่วมเพศต่อ ผู้หญิงคนนี้ก็จะเสี่ยงท้องเช่นกัน

5 วันต่อมา เขามีปัสสาวะแสบขัดและมีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ เขาเป็นโรคหนองใน!

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2559 ลุงหมอเดินผ่านร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง เห็นพนักงานสาวร้องโอดโอยเสียงดัง เธอนั่งตัวงอ แหงนหน้า สองมือวางอยู่ที่ท้องน้อย เจ้าของร้านก็รู้จักลุงหมอ ลุงหมอจึงขอตรวจ พบว่ากดเจ็บมากที่ท้องน้อยเหนือหัวเหน่า และบริเวณด้านซ้าย ขวา หน้าท้องตึง เธออิดออดซักครู่เมื่อลุงหมอถามว่าประจำเดือนขาดไหม ได้ไปทำอะไรไหม

คำตอบคือท้อง 2 เดือนแล้วไปทำแท้งที่อีกจังหวัดหนึ่ง คนที่ทำไม่ใช่แพทย์ ด้วยการฉีดยาเข้าช่องคลอด 10 วันก่อน เจ็บท้องมาตลอด อาการนี้เป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ เพื่อนๆ จึงตามรถ 1669 มารับไปโรงพยาบาล ทั้งที่เธอควรจะพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มท้อง ซึ่งเป็นทางแก้ที่ดีกว่า จะได้ไม่ต้องติดเชื้อรุนแรง ไม่ต้องได้รับอันตรายอย่างนี้ แต่เป็นเพราะเธอรู้ไม่เท่าทัน เชื่อคำแนะนำของเพื่อน จึงไม่ได้เข้าถึงบริการที่ปลอดภัย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีข่าวผู้หญิงท้องไม่พร้อมที่ไม่ต้องการลูก แต่คลอดแล้วนำเด็กไปทิ้ง แม้ทำแท้งไม่ได้ ต้องท้องต่อ แต่ถ้าเข้าถึงบริการปรึกษาทางเลือกที่เข้าใจเธอ เธอจะตัดสินใจเลือกทางออกได้ดีกว่านี้ อย่างเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 59 ที่ภูเก็ต ชาวบ้านออกหาของเก่าตามถังขยะ คุ้ยไปคุ้ยมา เจอทารกน้อยแรกเกิดนอนส่งยิ้มให้ ตัวเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าอ้อมสีขาวหนึ่งผืนห่อหุ้มร่างกายไว้เพียงเล็กน้อย

วันที่ 18 ก.ย. 59 ที่สิงห์บุรี ชาวบ้านขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นรถปิกอัพสวนไป ขับมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเหมือนเด็กร้อง พบเด็กสภาพเพิ่งคลอด หัวแตกเป็นแผล คาดว่าเด็กถูกโยนลงมาจากรถ

แล้วพวกเราจะทำยังไงดีที่จะลดข่าวและเหตุการณ์ทิ้งลูก?

ส่วนตัวลุงหมอมองว่า การมีบริการที่ดีให้คนไข้กล้ามาพบ ปรึกษา เล่าความทุกข์ และชุมชนกล้ายอมรับปัญหา ยอมรับความจริง จะช่วยผู้หญิงให้เลือกสิ่งที่ดีกับตัวเองได้ เพราะคนเราคิดไม่เหมือนกัน บางคนทนได้ บางคนยินดีเลือกทำไม่เหมือนคนอื่น แต่ดีสำหรับตัวเขาเอง อย่างเรื่องของพวกเขาเหล่านี้

หญิงสาววัย 23 ปี มาฉีดยาคุม เธอมีลูกถึง 4 คน คนโตอายุ 7 ขวบ ตามด้วย 5 ขวบ 3 ขวบ และ 1 ขวบตามลำดับ จากสามีคนเดียวกัน เธอบอกว่ามีลูกหลายคนเป็นความตั้งใจ ไม่คิดทำแท้งเลย เพราะครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันเลี้ยง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนมีฐานะอะไร และเธอจะไปทำหมันแห้งหลังยาคุมเข็มนี้

อีกคน เธอเป็นครู อายุ 49 ปี บอกหมอว่ามีลูก 2 คน ฉีดยาคุมมาแล้ว 21 ปี ที่ฉีดมานานเพราะกลัวท้อง คุณครูอายเด็ก เพราะว่าสอนลูกศิษย์ให้ระวังท้อง!

หรือสาววัย 39 ปี มาพร้อมกับหนุ่มวัยเดียวกัน เธอบอกว่า “เราเป็นเพื่อนกัน เราพลาด” โดยที่ทั้งคู่ต่างมีครอบครัว มีลูก ฝ่ายชายมีครอบครัวที่ดี ส่วนฝ่ายหญิงมีปัญหากับสามี สามีนอกใจทำให้มีเรื่องทะเลาะกันตลอด และวางแผนจะหย่ากัน

“หนูจะหย่ากับสามีอยู่แล้ว หนูไม่โทษผู้ชาย ต้องโทษตัวหนูเอง หนูคิดว่าสามารถเลี้ยงลูกที่จะเกิดขึ้นมาได้ แต่มีเขาไม่ได้ค่ะ เพราะภรรยาฝ่ายชายเป็นเพื่อนสนิทกับหนู อาจเป็นว่าหนูเหงา แต่เราไม่ได้รักกัน มีอะไรกันเพียงครั้งสองครั้ง คิดว่ามันบังเอิญ ไม่ได้คิดหาคนมาแทนสามี”

เธอตั้งท้อง 6 สัปดาห์ จริงๆ ไม่อยากทำแท้ง เธอบอกว่า “หนูเลือกทางที่ไม่ให้มีปัญหากับครอบครัวเขาและลูกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า”

“หนูว่าหนูผิด หนูก็ต้องยอมรับได้”

ส่วนการจะเป็นแม่หรือไม่ เธอขอลุงหมอว่าให้สิทธิเธอตัดสินใจเอง

ลุงหมอรับฟังเธอตลอด ทั้งเรื่องที่เธอพร่ำบอกว่าเธอรู้สึกผิด เสียใจ และบอกว่าขอให้เธอเข้มแข็ง ให้กำลังใจตัวเอง

และอย่าตอกย้ำความรู้สึกผิดของตัวเองอีกต่อไป

-ลุงหมอเรืองกิตติ์-