เรื่องเล่าจากหมอธนพันธ์ สงขลา (ตอนที่ 1)

ช่วงนี้ทีมทำแท้งของผมไม่พร้อมแต่จะว่าเป็นทีม จริงๆก็คงไม่ใช่

คนที่อยู่ในเส้นทางทำแท้งของผม อาจจะไม่ใช่ทีมของผมทั้งหมด
บางคนทำเพราะจำยอม นั่นคือลูกศิษย์ เขากำลังเรียน
เขาต้องทำแท้งเพราะต้องทำให้เป็น นี่เป็นข้อกำหนดของการเรียน
แต่บางคนเป็นผู้ร่วมงานที่ต้องจำใจมาดูคนไข้ของผม และพวกเขารู้สึกเครียด
ที่ต้องมาดูแลคนไข้ทำแท้งของผม“เขากลัวบาป” นั่นจึงเป็นที่มาที่จำต้องบอกว่า
ทีมของผมยังไม่พร้อม มันจึงทำให้ในตอนนี้
ผมไม่สามารถให้บริการยุติการตั้งครรภ์ได้เหมือนเมื่อก่อน
ประหนึ่งว่า ช่วงนี้ใครจะมาเกิดก็เกิด เกิดในวาระแบบไหนก็เกิดไปตามมีตามเกิด
เอาเหอะ กรรมใครกรรมมัน (ผมไม่รับ)

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จู่ๆก็มีคนไข้มาให้ผมทำแท้งอีกครั้ง
หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน บ้าจริง…..(ผมสบถในใจ)
เมื่อเจอเธอ ผมถึงกับรู้สึกฉุนขึ้นมา
นั่นก็คงเป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ช่วงนี้จะมีใครที่มาขอให้ทำแท้ง
ผมจึงรู้สึกเบื่อๆ เบื่อที่บางทีก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร
แต่ช่างเหอะ มันคงไม่ใช่กงการอะไรของผมนี่นา

“หมอคะ ดิฉันเสียเงินไปกว่า ๕ พัน เพื่อซื้อยาทางอินเทอร์เน็ต
มาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ แต่มันก็ยังไม่แท้ง”
เธอเริ่มต้นด้วยประโยคเช่นนี้ ซึ่งทำให้ผมต้องหยุดอารมณ์ฉุนที่ส่งออกไปเมื่อครู่

“ขอหมอดูยาที่ว่านั่นหน่อยได้ไหมครับ”
มันดูสุภาพดีนะครับที่ถามออกไปอย่างนั้น แทนคำผรุสวาทที่กำลังคิดอยู่ในใจ
(ไปซื้อมันทำไมวะ…ไปรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นยาทำแท้งจริงๆ…เวรจริง
อุตส่าห์ไปซื้อของราคาแพงมา ทำแท้งไม่สำเร็จแล้วมาหาผมทำไมวะ..)
มันอยู่ในหัว แต่ไม่สามารถพูดออกไปได้

ในเมื่อผมเองก็ยังไม่สามารถช่วยเธอคนที่นั่งอยู่ข้างหน้านี้ได้ จะว่าไป
อันที่จริงก็คงเป็นเพราะเราเอง ที่ทำให้การเข้าถึงบริการ
มันยากเย็นแสนเข็น ยาที่สามารถให้บริการได้โดยไม่ต้องเสียเงิน
จึงกลายเป็นยาที่มีราคาแสนแพง

“ดิฉันคงใช้ยาผิดวิธี จึงไม่ทำให้เกิดการแท้ง”

เธอยังคงเล่าต่อ เธอคนนี้คงมีอะไรบางอย่างที่ผมต้องหยุดฟัง
เพราะเมื่อแรกที่พบหน้ากัน ผมก็รู้สึกว่าเธอไม่ปกติ
อันที่จริงเธอกำลังป่วยด้วยซ้ำ เธอป่วยด้วยโรคที่ไม่น่าจะสามารถมีลูกคนนี้ได้อีกต่อไป
แต่เธอไม่ได้ปรึกษาแพทย์ด้วยเหตุที่ไม่กล้า

(อันที่จริง ใครก็ตามที่จะมาขอทำแท้ง ล้วนมีความกลัวเช่นนี้ทุกคน เชื่อไหม
เธอเหล่านั้นกลัวหมอด่า กลัวพยาบาลด่า กลัวการถูกเหยียดหยามจากคนรอบข้าง
จากพวกเราผู้ซึ่งถูกเรียกว่า หมอและพยาบาล)
เธอจึงได้เข้าไปในอินเทอร์เน็ต และสั่งยาทำแท้งในราคากว่า ๕ พันมาใช้

“ทำไมต้องทำแท้งล่ะ” ผมถามออกไป
“หนูลำบากมากนะคะหมอ” เธอตอบ

ซึ่งผมเชื่อว่า ท่านหลายคนที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ก็คงยิ้มอยู่ที่มุมปาก
(แมร่ม…พูดเหมือนกันทุกคน” ใช่ไหม?)

เรื่องราว ความจริงทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้ที่
เรื่องเล่าจากหมอธนพันธ์ สงขลา (ตอนจบ)
…………………………………………………………………………

อ้างอิง: “บันทึกดัดฟันเมีย” https://www.gotoknow.org/blog/thanapan

* “กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สปสช.” เพิ่มเติมโดย บรรณาธิการเว็บไซต์ เพื่อความชัดเจน