“ดิฉันเริ่มป่วยด้วยโรคนี้ มาตั้งแต่ตั้งท้องลูกคนที่แล้ว ตอนนั้นสามีก็บอกให้ไปเอาลูกออก”
ผมสังเกตเห็นว่า แววตาของเธอเริ่มมีน้ำตามาเอ่อมากขึ้น
“แต่จะให้หนูไปทำแท้งได้อย่างไร…
ในเมื่อลูกคนนี้เกิดมาเพราะเรา ๒ คนรักกัน หนูทำใจไม่ได้หรอก”
คราวนี้น้ำตาเธอไหลพราก ผมก็ทำได้แค่ฟัง และยื่นกระดาษซับน้ำตาให้
(แมร่ม..กูคงเป็นศิราณีกลับชาติมาเกิดสินะ แต่..เอ๊ะ..ป้าศิราณีคงยังไม่ตายทีนะ)
“หนูเลือกที่จะเอาลูกไว้ และยอมที่จะต้องเลิกกับเขาไป
ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาจึงต้องโกรธหนูเสียขนาดนั้น
แต่หนูก็ทำใจได้นะคะ เพราะได้ลูกมาอีกคนที่รักเขามากเหลือเกิน
และหนูก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่บัดนั้น” เธอบอก
“แล้วท้องนี้เป็นมายังไงล่ะ”
ผมเริ่มงง (อันที่จริงก็ไม่งงหรอก บนเส้นทางการทำแท้งที่ผ่านมา
เรื่องแบบนี้ก็พอจะคาดเดาได้เหมือนกัน)
“มีรุ่นพี่เขาเข้ามาในชีวิตค่ะ
เราเคยรู้จักกันมาก่อนนานมากแล้วตั้งแต่ตอนเรียน ตอนนั้นหนูไม่มีใคร
เมื่อเขาเริ่มเข้ามาในชีวิตเราก็เลยมีอะไรกัน และหนูก็ท้องนี่แหละหมอ
เชื่อไหม ว่ามันแค่ ๒ ครั้งเอง ๒ ครั้งจริงๆ” เธอเล่า
“เชื่อ” ผมตอบ
อันที่จริง ดาวพระศุกร์ก็คงเป็นแบบเธอนี่แหละ
เพียงแต่ดาวพระศุกร์เธอถูกคุณภาคย์ข่มขืนแค่เพียงครั้งเดียวก็ท้องแล้ว
แต่เอ๊ะ..น้องดาวพระศุกร์ไม่ท้องนี่นา ขอโทษ ผมคงกำลังอิน
เพียงแต่ตอนนั้น คนไทยทั้งประเทศกำลังรอให้คุณภาคย์ข่มขืนนางเอกจริงๆเสียที
เท่านั้นเอง หนังช่อง ๗ น่ะ เธอคงเคยดูใช่ไหม กบกะศรราม” ผมว่าไป
พร้อมหัวเราะเกลื่อนความมืดมัวของการสนทนาในขณะนั้น เท่านั้นเอง
“พอเขารู้ว่าหนูท้อง เรื่องมันเลยเปลี่ยนเลยล่ะหมอ”
ว่าแล้วตอนนี้ การสนทนาก็ต้องหยุดลงไปอีก
เพราะการสะอื้นของผู้หญิงสักคนหนึ่งที่นั่งตรงหน้าผมนี่ มันเป็นเรื่องใหญ่ทุกครั้ง
ผมกำลังย้อนนึกไป ว่าผู้หญิงของผม ต้องร้องไห้เพราะผมสักกี่ครั้ง
“เขามีเมียแล้ว หมอคะ หมูไม่ได้กำลังโกหก หนูไม่ทราบจริงๆ” เธอคงกำลังรู้สึกผิดอีกรอบ
เพราะน้ำตาที่ไหลลงมานั้น มันกำลังถูกซับแล้วซับอีก
อันที่จริงเรื่องราวแบบนี้ ใช่ว่าผมจะไม่เคยได้ฟัง และอันที่จริงอีกหน
ก็เคยรู้สึกรำคาญเหมือนกัน ว่าทำไมต้องมีผู้หญิงที่ถูกหลอกเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆ
ผู้หญิงโง่ ผู้ชายแม่งเหี้ย หรือเป็นการสมยอม หรือจริงๆแล้ว
มันเป็นลิขิต แต่ในชีวิตจริง มันก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จริงๆ
“เอาเหอะ ไม่เป็นไร แล้วผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง”
ผมเริ่มการสนทนาอีกครั้ง หลังต้องหยุดไปด้วยน้ำตา
“หนูจึงไปซื้อยาทาง internet มาทำแท้ง เพราะเขามาบอกว่า เขามีเมียอยู่แล้ว
หนูต้องทำนะหมอ ลูกจะเกิดมาแบบนี้ไม่ได้ และหนูเองก็ไม่แข็งแรงพอที่จะท้องลูกคนนี้”
ใช่สิ ผมนึกขึ้นมาได้ เธอกำลังไม่สบาย ด้วยตัวโรคเองแล้วเธอก็ท้องไม่ได้
“เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะช่วยจัดการให้ เพราะยาที่เธอซื้อมานั้น
อันที่จริงก็เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีพอสมควรนะ
เพียงแต่ว่า เราไม่รู้ว่าเป็นเป็นยาจริงหรือปลอม หรือไม่เธอก็ใช้ผิดวิธี
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อกินยานี้แล้ว เธอก็ควรทำให้แท้งให้สำเร็จ
เพราะลูกอาจจะพิการจากยานี้ได้นะครับ
และที่สำคัญ ยาเม็ดแรกที่กินเข้าไปนั้น
หากเป็นยาของแท้ มันก็ทำให้รกเสื่อมและตัวอ่อนก็ไม่พัฒนาแล้ว
ผมเชื่อว่าตอนนี้การตั้งครรภ์ของเธอหยุดไปเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่มันยังไม่แท้งออกมาเท่านั้น”
ผมอธิบายออกไปหลังจากได้ตรวจภายในเป็นที่เรียบร้อย
……………………………………………………………………….
ผมอยากจะบอกว่า ยาทำแท้งในตอนนี้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สปสช.*
เขาจัดให้โรงพยาบาลที่รับดูแลคนไข้ที่ต้องมายุติการตั้งครรภ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
และที่สำคัญ ยา cytotec ที่มีใช้ในโรงพยาบาลน่ะ เม็ดละ ๑๐ กว่าบาทเท่านั้น
ไม่ใช่เม็ดละ ๕๐๐ อย่างที่เธอเล่ามา
ยังมีคนอีกมากมายนะครับที่ต้องรับบริการทางอินเทอร์เน็ตด้วยราคาแพงๆเช่นนี้
บางคนต้องหาซื้อยาซ้ำๆ ในราคาเดิมๆ เพียงเพราะการแท้งไม่ได้เกิดขึ้นจริง
หลายๆครั้ง เงินที่ต้องได้มาก็เกิดจากการหยิบยืมมาอีกที
และบางคนมาหาเราอีกทีก็เมื่ออายุครรภ์ที่มากเกินกว่าที่จะให้การช่วยเหลืออะไรได้
นอกจากปลอบใจและทำใจ….
…………………………………………………………………………
อ้างอิง: “บันทึกดัดฟันเมีย” https://www.gotoknow.org/blog/thanapan
* “กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สปสช.” เพิ่มเติมโดย บรรณาธิการเว็บไซต์ เพื่อความชัดเจน