ไปงานทำแท้งโลกที่หอศิลป์กรุงเทพ (ตอนแรก)

หากเลือกได้ เวลาขึ้นเรือบินไปไหน ผมมักจะดูทิศทาง ว่าด้านไหนสายัณห์สวัสดิ์ ด้านไหนตะวันรอน ทั้งนี้จะได้หนีแดดแยงวานได้ถูกทิศถูกทาง แต่หากเมื่อการเดินทางล่วงมาเวลาเย็นย่ำ ผมมักจะเลือกที่นั่งด้านเดียวกับดวงลูกไฟ เพราะในใจจะได้โบกมือลาแสงสุดท้ายของวัน… วันนี้ผมนั่งเครื่องบินเที่ยวครับ เที่ยวเดียวยาวเกือบด้ามขวานไทย ออกเดินทางเที่ยวเช้าที่สุดจากหาดใหญ่ อันที่จริง วันนี้ผมขึ้นมาร่วมงาน “วันแท้งโลก” รับปากเขาไว้ว่าจะมาร่วมเสวนาในงานที่ถูกจัดขึ้นในหอศิลป์กรุงเทพฯบริเวณแยกสยาม “วันแท้งโลก” ซึ่งอันที่จริงคือวันที่ ๒๘ กันยายน แต่เขาเลือกจัดวันนี้ก็เพื่อจะได้มีคนว่างมาร่วมงานกัน ผมขึ้นเวทีพร้อมกับคุณวิจักขณ์ พานิช อันที่จริงก็ไม่เคยรู้จักกันหรอก แต่เมื่อนั่งคู่กันคุณวิจักขณ์ก็กระซิบผมว่า “ผมเกิดที่หาดใหญ่ครับ” จึงหันไปมองหน้าเขาอีกครั้งแล้วก็ถึงบางอ้อ “เป็นลูกชายอาจารย์วิจารณ์เหรอครับ” ผมถามออกไป โลกมันแคบนะครับ เคยฟังอาจารย์เล่าเรื่องลูกให้ฟัง แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆก็จำเรื่องราวบางตอนได้ และตอนนี้ผมก็ได้มาขึ้นเวทีพูดเรื่องทำแท้งกับลูกชายหากเลือกได้ เวลาขึ้นเรือบินไปไหน ผมมักจะดูทิศทาง ว่าด้านไหนสายัณห์สวัสดิ์ ด้านไหนตะวันรอน ทั้งนี้จะได้หนีแดดแยงวานได้ถูกทิศถูกทาง แต่หากเมื่อการเดินทางล่วงมาเวลาเย็นย่ำ ผมมักจะเลือกที่นั่งด้านเดียวกับดวงลูกไฟ เพราะในใจจะได้โบกมือลาแสงสุดท้ายของวัน…

วันนี้ผมนั่งเครื่องบินเที่ยวครับ เที่ยวเดียวยาวเกือบด้ามขวานไทย ออกเดินทางเที่ยวเช้าที่สุดจากหาดใหญ่ อันที่จริง วันนี้ผมขึ้นมาร่วมงาน “วันแท้งโลก” รับปากเขาไว้ว่าจะมาร่วมเสวนาในงานที่ถูกจัดขึ้นในหอศิลป์กรุงเทพฯบริเวณแยกสยาม “วันแท้งโลก” ซึ่งอันที่จริงคือวันที่ ๒๘ กันยายน แต่เขาเลือกจัดวันนี้ก็เพื่อจะได้มีคนว่างมาร่วมงานกัน

ผมขึ้นเวทีพร้อมกับคุณวิจักขณ์ พานิช อันที่จริงก็ไม่เคยรู้จักกันหรอก แต่เมื่อนั่งคู่กันคุณวิจักขณ์ก็กระซิบผมว่า “ผมเกิดที่หาดใหญ่ครับ” จึงหันไปมองหน้าเขาอีกครั้งแล้วก็ถึงบางอ้อ “เป็นลูกชายอาจารย์วิจารณ์เหรอครับ” ผมถามออกไป โลกมันแคบนะครับ เคยฟังอาจารย์เล่าเรื่องลูกให้ฟัง แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆก็จำเรื่องราวบางตอนได้ และตอนนี้ผมก็ได้มาขึ้นเวทีพูดเรื่องทำแท้งกับลูกชายของท่าน และแน่นอน เรากำลังคุยเรื่องทำแท้งอยู่กับทายาทของท่านพุทธทาสภิกขุอยู่

ในห้องประชุมมีคนมานั่งเกินครึ่งห้องเล็กน้อย ไม่แน่ใจนักว่าจะถึงร้อยคนไหม มากหน้าหลายตา คละเคล้าชายหญิง แต่เอ๊ะ ผมเห็นพระมานั่งฟังอยู่ด้วย เห็นอย่างนี้แล้วทำให้ผมรู้สึกเกร็งๆ เล็กน้อย และยิ่งเกร็งมากขึ้น เมื่อคุณวิจักขณ์ได้เสนอมุมมองของศาสนาต่อการสร้างบรรทัดฐานของสังคมได้อย่างเผ็ดร้อน “ศาสนาเมื่อใหญ่และมีความซับซ้อนมากขึ้น ศาสนาก็จะพัฒนาขึ้นมาเป็นเหมือนอำนาจอย่างหนึ่งของสังคม…”

มาถึงคิวของผมแล้วล่ะ

“มีคนคนหนึ่งมาขอทำแท้ง จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ เป็นนักเรียนแล้วท้องไม่พร้อม ความไม่มีเงิน ถูกข่มขืน สุขภาพแข็งแรงไม่พอ เป็นเมียน้อยของใคร ถ้าเราเอาอารมณ์ของเราไปตัดสิน เราก็ไม่อยากจะช่วยเค้าเลย ก็แค่เป็นเมียน้อยชาวบ้านมันก็ผิดศีลแล้วนะ…”

“แต่ถ้าเราใช้ความเรียบง่ายของการเกิดมาเป็นคนคนหนึ่ง เค้าก็มีสิทธิที่จะได้รับบริการนะ ในชีวิตผมเห็นผู้หญิงตายมาเยอะที่เข้าไม่ถึงบริการ… ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง… ทั้งๆ ที่เค้าควรมีชีวิตรอดต่อไปเพื่อคนที่รักเค้า เพื่อพ่อแม่ เพื่อลูก และกลับไปมีชีวิตของเค้า…”

มีวันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนแพทย์ว่า มีผู้หญิงที่ถูกสามีข่มขืนมา จะส่งมาทำแท้งได้ไหม ผมหันไปถามลูกศิษย์ เขาตอบทันทีว่า “ไม่ทำ-มันบาป !”

หลังจากนั้น ผมเพียงทำให้ลูกศิษย์ได้มีโอกาสพูดคุยสัมผัสชีวิตของผู้หญิงคนนั้น ทำความเข้าใจชีวิตของผู้หญิงว่าเค้าผ่านอะไรมาบ้าง ชีวิตเค้าเป็นอย่างไร อะไรทำให้เค้าตัดสินใจทำแบบนี้ แล้วแค่ใช้ความเรียบง่ายของชีวิต..คิดต่อ

ในที่สุดลูกศิษย์ผมก็มีโอกาสได้สัมผัสความสุขจากการที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งพ้นทุกข์ ได้กลับไปใช้ชีวิตปกติสุข..

“ไม่มีใครอยากท้องเพื่อไปทำแท้ง เชื่อผม…”

เมื่อคนบนเวทีเสวนากันเสร็จก็ถึงคราวคนด้านล่าง พระท่าน (ที่เข้ามาร่วมเสวนาด้วย) ก็ยกมือ”ฉิบหายแล้ว” ผมคิดในใจพร้อมเกิดอาการร้อนวูบวาบประหนึ่งสตรีถูกวัยทองเล่นงาน !
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ธนพันธ์ เที่ยวหนึ่งวันสองพันกิโล
27 กย 58