ด.ญ.มิ้นท์ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.2 เป็นลูกสาวคนโตในจำนวน 3 คน พ่อแม่รับจ้างในโรงงาน แห่งหนึ่งในจังหวัดแถวภาคกลาง พ่อแม่พามิ้นท์มารับบริการปรึกษา เพราะพบเธอกับเพื่อนชายอายุ20 ปีที่หน้าห้างสรรพสินค้า หลังจากที่เธอไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนชาย 1 คืน พ่อแม่ดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์กับเพื่อนชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งตรวจร่างกาย จากการตรวจปัสสาวะพบเธอท้อง เธอบอกว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชายคนแรกที่เลิกกันเมื่อปลายปีก่อนแล้วจึงรู้จักกับเพื่อนชายคนนี้ผ่านโปรแกรมโซเชียลมีเดียได้2 เดือน มิ้นท์ มีเพศสัมพันธ์ก่อนนี้หลายครั้งโดยที่พ่อแม่ไม่ทราบ ความที่มิ้นท์เป็นเด็กเรียนดีหัวอ่อนว่าง่าย พ่อแม่จึงไม่ดุว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อถามเธอถึงอนาคต เธอบอกอยากเป็นหมอแต่กลัวเข็มฉีดยา ส่วนการตั้งครรภ์ของเธอก็บอกว่าแล้วแต่พ่อแม่
จากการพูดคุยกับมิ้นท์และพ่อแม่ พบว่าเธอเป็นผลิตผลของครอบครัวที่พ่อแม่คิดว่าได้เลี้ยงดูลูกอย่างดีแล้ว แต่ขาดการ พูดคุยสื่อสาร ขาดความใกล้ชิดสนิทสนม พ่อแม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องเพศเพราะเกรงว่าจะชี้นำลูก เธอจึงหาประสบการณ์ด้วยตนเองโดยที่ไม่อาจเล่าเรื่องนี้แก่พ่อแม่ได้เลย ประกอบกับการที่พ่อแม่ไม่เคยให้เธอรับผิดชอบในวิถีชีวิตประจำวัน
การตัดสินใจต่างๆ ของเธอจึงขึ้นอยู่กับพ่อแม่
การให้การปรึกษาทางเลือก จึงเริ่มกับมิ้นท์เพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริงของเธอ โดยชั่งน้ำหนักระหว่างความรักและ การศึกษา และอนาคตที่จะเกิดหากเลือกทางนั้น การตัดสินใจต่อชีวิตตัวเองและอีก 1 ชีวิตในท้อง รวมทั้งแนวทางการดำ เนินชีวิตตามทางเลือกต่อไป เราขอให้มิ้นท์ทบทวนสิ่งที่พูดคุยกับพ่อแม่เพื่อค้นหาความคิดของพ่อและแม่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต่อการท้องซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้อภัยของพ่อในเรื่องที่มิ้นท์มีเพศสัมพันธ์ แต่ห่วงความปลอดภัยและความเจ็บปวดของลูกในการทำแท้ง ส่วนแม่เองก็ห่วงเรื่องการเรียนจึงอยากให้เธอตั้งใจสอบก่อนจึงตัดสินใจ มิ้นท์เองเห็นท่าทีของเพื่อนชายที่ให้ปากคำที่สถานีตำรวจ ทำให้ค้นพบความจริงว่าเรื่องที่เพื่อนชายเคยสัญญาว่าจะรัก และดูแลกันนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
ในที่สุด มิ้นท์ก็ได้ทางเลือกของเธอ มิ้นท์คิดได้ว่าเธอควรรักชีวิตของตัวเอง เธอต้องการอนาคตที่ดีชีวิตเธอมีพ่อแม่ที่รักและหวังดีต่อเธอ ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจทำแท้งโดยมีพ่อและแม่อยู่เคียงข้างให้กำลังใจ
สิทธิที่จะ”เลือก”เมื่อท้องไม่พร้อม : ชีวิตมีทางเลือก