ไปงานทำแท้งโลกที่หอศิลป์กรุงเทพ (ตอนจบ)

อันที่จริง แสงจากดวงอาทิตย์เวลาจะลับขอบฟ้านั้นสวยที่สุดในโลกครับ เราจะได้เห็นเส้นขอบฟ้าเรืองรอง เห็น Belt of Venus ได้อย่างคมชัด เห็นแสงรัศมีจากดวงลูกไฟลูกนั้นแยงก้อนเมฆขึ้นมาเป็นเส้นๆ มิได้แปลกใจเลย ว่าทำไมเวลาเราเป็นเด็ก จึงถูกสอนให้วาดรูปดวงอาทิตย์มีรัศมีออกจะขนาดนั้น

ตอนก่อน ผมเล่าว่ามาร่วมงานเสวนา “วันแท้งโลก” โดยที่มีพระรูปหนึ่งมานั่งฟังอยู่ด้วย และมีผู้ร่วมเสวนาท่านหนึ่งก็มาพูดเรื่องศาสนาโดยเฉพาะ ทำให้ผมรู้สึกเกร็งเล็กน้อย แต่มามากขึ้นเมื่อคนบนเวทีเสวนากันเสร็จก็ถึงคราวคนด้านล่าง พระท่าน (ที่เข้ามาร่วมเสวนาด้วย) ก็ยกมือ “ฉิบหายแล้ว” ผมคิดในใจพร้อมเกิดอาการร้อนวูบวาบประหนึ่งสตรีถูกวัยทองเล่นงาน

แต่ความร่มเย็นในใจก็บังเกิดเมื่อพระท่านบอกว่า

“มุมมองเรื่องศาสนาต้องใช้ปัญญาวิเคราะห์ควบคู่กันไป เรื่องทำแท้งมิได้มองเรื่องบาปเป็นเรื่องหลัก แต่มันเป็นหลักความจริงเฉกเช่นอริยสัจสี่ นั่นคือ การตั้งท้องเป็นทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากการไม่พร้อม และการทำให้ไม่ท้องก็เป็นหนึ่งในการช่วยดับทุกข์”

และพระท่านก็จบด้วยข้อสังเกตุว่า

“ศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาอะไร เราจะสังเกตุเห็นว่า คนที่บัญญัติ คนที่เป็นผู้ใช้ศาสนามาสั่งสอนคน ล้วนเป็นชาย อาตมามีความเชื่อว่า หากชายตั้งท้องได้ หากพระตั้งท้องได้ วันหนึ่งก็คงมีชายมาขอทำแท้งเช่นเดียวกัน..”

ถึงตรงนี้ ผมยกมือ “สาธุ”

ก่อนลงจากเวทีเสวนา พิธีกรถามผมว่าอยากจะฝากข้อคิดอะไรบ้าง

ผมอึ้งไป ส่งไมค์ให้คุณวิจักขณ์ก่อน (ให้เค้าพูดเรื่องศาสนา..) เขาก็หัวเราะแล้วยื่นมันกลับมาให้ผม ผมบอกว่า คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะฝากอะไร วุฒิภาวะและวิถีวิธีคิดของผมคงไม่สามารถฝากข้อคิดให้ใครได้

จบการเสวนาช้าไป 15 นาที กว่าผมจะได้ออกมาก็จากที่จัดงานห้าโมงครึ่ง เริ่มมีความกังวลเล็กน้อยว่าจะตกเครื่องบิน แต่เอาเหอะ เช็คอินทางอินเตอร์เน็ตมาเรียบร้อยแล้ว คงไม่น่ามีปัญหาอะไร

18.16 น. ผมถึงเคาเตอร์เช็คอิน “ยังทันค่ะ แต่ตอนนี้ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ผู้โดยสารรีบไปโดยด่วนเลยนะคะ” เธอว่ามาอย่างนั้น จากนั้นมา ผมก็แทบจำไม่ได้อีกเลยว่าได้เดินตอนไหนบ้าง จากจุดตรวจสัมภาระมาจนถึงประตู B4 ผมใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาที เรือบินออกตรงเวลาเป๊ะ 18.45 น.

จริงๆ ในช่วงสุดท้ายของการเสวนา ผมได้ฝากคำพูดได้อย่างเรียบง่ายไว้

“ผมทำแท้งมามากกว่า 10 ปี ผมเชื่อว่าไม่มีใครเกลียดผม อาจารย์ในโรงพยาบาลไม่น่าจะมีใครเกลียดผม (วงเล็บในใจ แต่ในฐานะผู้บริหารโรงพยาบาล กลับมีคนเกลียดมากมายนัก) ยังคงมีอาจารย์ในโรงพยาบาลส่งคนไข้มาให้ผมช่วยทำแท้ง หมอข้างนอกยังคงให้ผมช่วยทำแท้ง ผมไม่เคยกลัวว่าใครจะมาเกลียดผมเพราะเรื่องทำแท้งแน่ๆ ส่วนเรื่องจะมีเด็กมาตามเกาะผมหรือไม่นั้น เกินความสามารถจะรู้ได้ว่ามีจริงไหม เพราะผมไม่ใช่ ริว จิตสัมผัส แต่ผมเชื่อว่า ผมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างคอยดูแลผมอยู่ เค้ายังไม่ยอมให้ผมตาย จึงต้องดูแลผม ผมยังตายไม่ได้ เพราะถ้าธนพันธ์จะตายไปตอนนี้ ก็จะมีผู้หญิงอีกหลายคนต้องตายจากการทำแท้งเถื่อนแน่ๆ”

เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า ขณะนี้มืดแล้ว เทพีวีนัสเธอเก็บเข็มขัดเรียบร้อย แต่ผมก็ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้ว่ามันมองไม่เห็นอะไร…

ธนพันธ์ เที่ยวหนึ่งวันสองพันกิโล
27 กย 58

Top of Form
Bottom of Form