เรามีพี่น้องสองคน มีพี่ชายคนนึงเรียนไม่จบป.ตรี เรียนม.ไม่ดัง เรียนๆเล่นๆกินเหล้า สรุปไม่จบจนถึงวันนี้ก็ไม่จบแต่พี่ชายเราอดทน ทำงานตลอดหลังรู้ว่าตัวเองจะไม่เรียนแล้ว (เราไม่ได้เกลียดพี่ เรารักพี่เรา) แต่แม่ทำให้เรารู้สึกตัวเราไร้ค่า ทำตัวน่ารำคาญใส่ เราจบม.ดังพอสมควร ตัวเราอยากเป็นแอร์ หลังจบเราตัดสินใจทำงานตจวเพราะให้เงินเยอะแต่เราตั้งใจทำเพื่อเก็บเงินเรียนแอร์เท่านั้น บอกแม่แล้ว แล้วแกก็ดูจะเข้าใจ แต่ตอนนี้ด้วยอะไรๆยังไม่พร้อมเราเลยย้ายมาทำงานกทม. แต่ดูแม่ไม่ค่อยจะชอบที่เราเปลี่ยนงาน เราออกไปไหนชอบตามจิก คือเรามีแฟนแต่ไม่ได้บอกแม่ เราก็บอกนอนบ้านเพื่อน ตื่นเช้ามาโทรมาอยู่นั่นถามถึงบ้านหรือยังด้วยน้ำเสียงจิกๆ อีกอย่างเราไม่อยากจะอยู่บ้าน เราเครียดกับงานเราเบื่อที่จะต้องเป็นขี้ข้าทุกคนในบ้าน ต้องล้างจาน เก็บผ้าบ้าบอคอแตกที่ไม่ใช่ของเรา แม่เราประเคนทุกอย่างให้พี่ตั้งแต่ซักถุงเท้าให้ไปยันเก็บกวาดห้อง แต่กับเราไม่เคยทำให้ ให้ทำเอง แม่เคยพูดว่าที่ทำให้พี่เพราะพี่เราให้เงิน เราเจ็บมาก เรารู้สึกอยากออกมาอยู่ข้างนอกแล้วส่งเงินอย่างเดียว เราเบื่อที่ต้องโดนตามจิก ตามใช้ แม่เราไม่เคยรบกวนอะไรพี่เราเลย ไม่เคยปลุกแต่เช้าๆมาใช้งานแต่กับเรา เราโดน คือที่ทำงานเราไกลกว่าพี่มาก เรากลับถึงบ้านสองสามทุ่ม เราตื่อหกโมงเช้าไปทำงาน ทำไมเราต้องทนกับความงี่เง่าปัญญาอ่อนขนาดนี้ ท้อ เครียดทุกเรื่อง ไม่อยากกลับบ้านแต่ก็ไม่รู้จะไปไหน ไม่อยากจะมองหน้าแม่ด้วยซ้ำ เพราะเรารำคาญ แม่ทำให้เราคิดว่าเงินซื้อความรัก ความดูแล ขอระบายหน่อยนะคะ ชีวิตตอนนี้อายุจะ25แล้ว แค่ไม่ได้ให้เงินแม่ก็ดูเป็นลูกที่เหี้ยไปะเลยหรือไง
คุณกำลังรู้สึกโกรธที่แม่ลำเอียง รักลูกไม่เท่ากัน ทำไมแม่จึงปฏิบัติกับคุณแบบนี้ขณะที่พี่ชายก็ถูกปฏิบัติอีกแบบ อยากให้คุณมองแบบการทำความเข้าใจชีวิตคนเป็นแม่(อย่าเพิ่งคิดว่าเราเข้าข้างแม่คุณนะคะ)
ในสังคมคนไทย คนจีน ค่านิยมความเชื่อเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ ลูกชายเป็นผู้สืบทอดตระกูลมันมีอยู่มานาน เราจึงเห็นว่าเกือบทุกครอบครัวลูกชายถูกเลี้ยงแบบไม่ต้องทำอะไร รอกินอย่างเดียว ส่วนผู้หญิงก็เป็นผู้ดูแลทุกอย่างในบ้านให้เรียบร้อย ลูกสาวในครอบครัวจึงถูกฝึกมาให้ต้องทำงานบ้านเพื่อที่วันหนึ่งเมื่อแต่งงานไปแล้วก็จะเป็น “แม่บ้าน” ต่อไป สังคมมันเป็นแบบนี้มาเป็นร้อยๆปีแล้ว แม่คุณเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะสังคมกำหนดไง คุณเองถ้าไม่เป็นกบฎ ต่อไปคุณก็จะเป็นอย่างที่แม่เป็นในที่สุด
ที่คุยมาทั้งหมด อยากให้คุณเข้าใจแม่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งมี่เหมือนกับมนุษย์แม่ทั่วไป สิ่งที่เขาทำไปก็ในนามของความหวังดีแหละ ไม่มีผิดมีถูก เพียงแต่ไม่ถูกใจคุณ คุณมีสิทธิที่จะไม่ทำในสิ่งที่แม่บอก ถ้าไม่ทำก็คุยกันดีๆ อย่าคุยกันตอนของขึ้น เวลาโกรธเรามักพูดในสิ่งที่จะไปทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายได้ง่ายมาก หลายครั้งพอหายโกรธแล้วคิดได้ก็เสียใจ
คุณค่าของคุณไม่ได้อยู่ที่ใครบอกว่าคุณเป็นคนมีคุณค่า แต่เป็นความรู้สึกที่คุณคิดว่าตัวเอง “เจ๋ง เก่ง มีคุณค่า”
ยินดี รับฟังและแลกเปลี่ยนค่ะ