ขอระบายนะครับ ไม่รู้จะไปพูดกับใครดี ผมมีความเสี่ยงมา 15 วันแล้ว (ไปเที่ยวครั้งแรก) ช่วงหลัง ๆ ผมพึ่งนึกเรื่อง HIV ขึ้นได้ แล้วเปิดเน็ตดู ลิ้นผมเป็นฝ้า ต่อมน้ำเหลืองตรงรักแร้บวม ผมคิดว่าผมไม่น่ารอด ผมนอนร้องไห้ทุกคืน นอนไม่หลับ กินไม่ลง นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ หน้าคนหลาย ๆ คน ผมเป็นความหวังของใครหลาย ๆ คน ทำดีมาตลอด รู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า อยากตาย อยากจริง ๆ แต่ถ้าเราตายคนรอบข้างก็เสียใจอีก คิดอะไรไม่ออก ไม่อยากอยู่แล้ว อยากหนีไป อยากหาเงินมาให้พ่อ ให้แม่ ยังไม่ทันได้ทำงานเลย ปวดหัว
บ้าหรือเปล่าคุณยังไม่ได้ตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีเลย ก็มโนจากอาการจนใหญ่โต อาการที่คุณเล่ามาไม่สามารถบอกยืนยันพิสูจน์ว่ามีเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ตั้งสติให้ดี ทำตัวปกติมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป รอให้ครบ ๒๘ วันแล้วไปตรวจหาเชื้อ รพ.ไหนก็ได้ แนะนำรพ.รัฐเพราะมาตรฐานถูกกำกับโดยกระทรวงสาธารณสุข ตรวจฟรีด้วย(แค่บอกเจ้าหน้าที่/พยาบาลคัดกรองว่าไปเสี่ยงมาและอยากตรวจเอชไอวี) ผลตรวจออกมาเป็นบวกแปลว่าติดเชื้อ เป็นลบแปลว่าไม่ติดเชื้อ ปิดเคสได้ ไม่ต้องตรวจซ้ำถ้าคุณไม่เสี่ยงอีก
กรณีที่ติดเชื้อ รู้ไหมว่าตอนนี้มันมียาที่รักษาที่ได้ผลดีมากคือยาต้านไวรัส รักษาเร็วกินยาต่อเนื่อง(ตอนนียังต้องรักษาไปตลอดชีวิต) จะมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนคนที่ไม่มีเชื้อเอชไอวี แก่ตายได้ แต่งงานมีครอบครัวได้ ไม่จำเป็นต้องบอกใครเพียงแต่รับผิดชอบต่อตัวเองและคู่ที่จะป้องกันเมื่อมีพสพ. ไม่ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่คนๆนั้นมีเชื้อหรือไม่มี แต่อยู่ที่การกระทำต่างหาก
คิดมาก กังวลใจไปล่วงหน้าทั้งที่ยังไม่รู้ผล เป็นเรื่องที่โง่มาก ไว้รู้ผลเป็นบวกค่อยกังวลก็ยังไม่สาย