กินยาคุมแล้วหลังจากประจำเดือนหมด มีเลือดออกเป็นสีน้ำตาล

mint_mn ถามเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว

คือได้มีการกินยาคุมกับเนิดแบบชนิดฮอร์โมนต่ำสุดเพื่อที่จะทำการรักษาสิวค่ะ โดยยาตัวนี้ ได้มีการแนะนำโดยแพทย์มาก่อนแล้ว แต่ได้เป็นการไปหาเมื่อหลายปีมาแล้วค่ะ ซึ่งแพทย์ได้บอกว่า ให้กินเพื่อปรับฮอร์โมน แต่ตอนนั้นก็ได้หยุดไป
จนตอนนี้อยากเริ่มกลับมากินใหม่ โดยกินแผงแรก 1-2 เม็ดได้มีอาการคลื่นไส้ และในวันที่2อาเจียน เม็ดที่3-5 เลยไม่ได้กิน เพราะต้องไปทำธุระต่างจังหวัดจึงไม่อยากเสี่ยง หลังจากนั้นก็ไปถามเภสัช เค้าแนะนำให้ดินหลังอาหาร เลยไม่มีอาการอีกเลย แต่กินเม็ดที่6 เป็นต้นมา
พอกินเม็ดสีขาวประจำเดือนมาเกือบเม็ดสุดท้ายเลย(ไม่แน่ใจเรื่องวันที่มา) มีการเริ่มกินแผงที่2 และหลังจากวันที่ประจำเดือนมาซัก3-4วัน ประจำเดือนสีแดงก็หมด แต่หลังจากนั้นจะมีเป็นสีน้ำตาลออกมานิดๆในทุกๆวันตลอด จนถึงตอนนี้เกือบจะครบ2อาทิตย์ได้แล้ว ก็ยังมีอยู่ตลอด ออกมาในประมาณที่ใส่แผ่นรองบางๆก็พอแล้ว
เบื่องต้นได้ปรึกษาเภสัชใกล้บ้าน เขาได้บอกว่า อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการพึ่งกินยาคุมได้ไม่นาน แต่ในตอนนี้ กังวลมาก เลยอยากถามหลายๆทางเพื่อให้แน่ใจค่ะ
หลังจากวันที่เว้นไป3วัน(เม็ดที่3-5) ก็กินยาคุมปกติ ครบทุกเม็ด และกินในเวลาเดียวกันตลอดเลย แต่แผงแรกในวันที่25 ได้มีการกินยาของเม็ดที่หยุดไป1เม็ด(เม็ดที่เว้นไว้ เม็ดที่3-5) เพื่อพยายามเลื่อนประจำเดือนออกไปอีกนิด และหลังจากนั้นก็ได้กินเม็ดขาวตามจำนวนที่ให้มาในแผงต่อจนหมด
พอขึ้นแผงที่2 หลังจากที่ประจำหมดอย่างที่บอกไป ก็มีเลือกสีน้ำตาลออกมานิดๆตลอด จนถึงวันนี้จนใกล้จะครบ2อาทิตย์หลังจากประจำเดือนสีแดงหมดแล้วค่ะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีอาการไรนอกเหนือจากนี้เลย ก่อนประจำเดือนมา จะมีปวดนิดเดียวเป็นการเตือนว่าประจำเดือนจะมาเหมือนปกติก่อนที่จะกินยา ไม่มีการปวดอย่างรุนแรงเลยค่ะ
อยากถามว่า เป็นไปได้มั้ยที่เป็นผลข้างเคียงจากการกินยาคุมแผงแรกๆ หรือร่างกายมีความผิดปกติ ต้องพบแพทย์โดยด่วน รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Your Answer