ผมเป็นคนที่ขี้กังวลคิดมากและเป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเคยไปเสี่ยงมา(หมอนวดออรัล) จากนั้นมีเพศสัมพันธ์(ใส่ถุงยาง) ตรวจ ครั้งแรกหลังเสี่ยง 7 วัน และ 35 วัน ที่คลีนิคนิรนาม ผู้ให้คำปรึกษาบอกปิดเคสได้ ผมก็ยังกังวลต่อพอหลังเสี่ยงครบ 3 เดือนผมก็ไปตรวจอีกที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ผลเหมือนเดิมคือไม่ติดเชื้อ
หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างผมขับรถมอไซอยู่ ก็มีน้ำอะไรไม่รู้กระเด็นเข้าหน้าผม ไม่แน่ใจว่าเข้าตารึเปล่า หลังจากนั้นผมก็หมกมุ้นอยู่กับการอ่านเกี่ยวการติดเชื้อในอินเตอร์เน็ต บางคนก็มาตั้งเกี่ยวกับการติดผ่านเยื่อบุตา,ปาก,อวัยวะเพศ ผมก็เริ่มคิดมาก
- บางครั้งผมนำนิ้วมาขยี้ตาบ้าง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจับอะไรมาบ้าง
- เวลาขับรถอยู่ อาจจะมีน้ำหรืออะไรกระเด็นเข้าหน้าเข้าตา ซึ่งก็ไม่รู้แหล่งที่มา
- เวลาเข้าห้องน้ำตามที่สาธารณะ ก็จับอวัยวะเพศ บางครั้งมือก็ไปโดนตรงหัวองคชาติ ก็เริ่มคิดมากว่าในวันๆนึงเราจับอะไรมาบ้าง มันจะปนเปื้อนอะไรบ้างไหม (ทุกวันนี้ผมลางมือก่อนเข้าห้องน้ำ)
จึงอยากจะสอบถามหน่อยครับ
1.ว่าผมคิดมากไปเองรึเปล่า
2.หลักการติดยังคง เป็นเรื่องเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันกับใช้เข็มฉีดยา อย่างเดียวใช่รึเปล่า
3.เชื้อที่ออกมาจากร่างกายมันจะด้อยคุณภาพ จนไม่สามารถติดต่อไปได้
4.เชื้อที่ออกมา เมื่อมันสัมผัสกับอากาศวิเดียว หรือ ลงไปในน้ำ จะทำให้ด้อยคุณภาพรึเปล่า
5.ถ้ามือเราไม่ไปสัมผัสกับสารคัดหลัง การใช้ชีวิตประจำวันของเราเท่ากับ ไม่เสี่ยง
ผมกังวลมากจนคิดว่าจะไปตรวจที่ นิรนามอีกรอบ
คุณหมกมุ่น วิตกกังวลมากจริงๆ และคุณก็รู้ตัว คุณรู้หมดเรื่องความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งความเสี่ยงครั้งที่คุณกังวลมันควรจะปิดเคสได้ตามที่เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาบอก อย่างไรก็ตามคนเรายังมีพสพ.ต่อไปอีก หากว่าคุณมีและไม่ได้สวมถุงยางทุกครั้ง ความเสี่ยงก็จะกลับมาอีก
เรื่องการติดเชื้อทางบาดแผลและช่องทางอื่นๆนอกจากทางเพศ ไม่ใช่สาระที่สำคัญเลยหากคุณไม่ใช่หมอ/พยาบาล ที่มีโอกาสสัมผัสเลือดและน้ำเหลืองเป็นประจำ
อาการคุณน่าจะเข้าข่ายวิตกกังวลเรื่องการติดเชื้อ ปฏิบัติตามสุขอนามัยทั่วไปคุณก็จะปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆได้ ฝุ่น pm 2.5 ยังน่ากลัวซะกว่าเพราะก่อให้เกิดโรคตั้งมากมาย